มะละกอ เป็นผลไม้ที่คนไทยรู้จักและนำมาใช้บริโภคกันมาช้านานแล้ว
ผลมะละกอดิบ ผลมะละกอสุกและส่วนของยางยังใช้เป็นประโยชน์ทางด้านอุตสาหกรรมได้อีกหลายๆด้าน
เช่น เนื้อมะละกอดิบ สามารถนำไปทำมะละกอเชื่อม แช่อิ่ม
ดองเค็ม หรือใช้ในโรงงานปลากระป๋อง ผลมะละกอสุกสามารถใช้ทำน้ำผลไม้
ผลิตซอส
ผลไม้กระป๋อง แยม ลูกกวาดและมะละกอผง เปลือกมะละกอ
ใช้เป็นอาหารสัตว์หรือสีผสมอาหาร ยางมะละกอ ใช้ในโรงงานเบียร์
ผลิตน้ำปลา อาหารกระป๋อง อุตสาหกรรมเคมีและเครื่องสำอาง
เป็นต้น
นอกจากนี้มะละกอยังเป็นไม้ผลเศรษฐกิจของไทยที่ใช้ทั้งบริโภคภายในประเทศและมีการส่งออกไปจำหน่ายยัง
ต่างประเทศ
ที่อยู่ในระดับแนวหน้าพืชหนึ่งที่สามารถทำรายได้ให้แก่ผู้ปลูกได้สูงแต่ในปัจจุบันการปลูกมะละกอ
ประสบปัญหา"โรคใบด่างวงแหวน"ซึ่งแพร่ระบาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เพียงไม่กี่จังหวัด
เช่น ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ จากนั้นได้ลุกลามแพร่ระบาดลงมาที่แหล่งปลูกใหญ่ในภาคกลาง
คือ ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาครและทวีความรุนแรงจนปัจจุบัน
ถือเป็นโรคที่สำคัญที่สุดของมะละกอ
ที่ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของมะละกอลดต่ำลงซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีพันธุ์มะละกอที่สามารถต้านทานต่อโรคนี้
ได้โรคใบด่างวงแหวนมะละกอนี้
สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ปาปาย่า ริง สปอต (papaya
ringspot virus) เชื้อไวรัสนี้จะเข้าทำลายมะละกอ
ได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของมะละกอ ตั้งแต่ระยะต้นกล้าจนถึงระยะเจริญเติบโต
เต็มที่กำลังให้ดอกออกผล
ถ้าเชื้อเข้าทำลายตั้งแต่ยังเป็นต้นกล้าจะทำให้ต้นแคระแกร็น ใบด่างเหลือง
บิดเบี้ยวเสียรูป
ใบหงิกงอ
เรียวเล็กเหมือนหางหนู ถ้าเป็นโรครุนแรงใบจะเหลือแค่เส้นใบใบดูเหมือนเส้นด้ายและต้นกล้าอาจตาย
หรือไม่เจริญเติบโต
ถ้าเชื้อเข้าทำลายในระยะที่ต้นมีอายุประมาณ 3 เดือน พบว่า ใบมีอาการด่าง
บิดเบี้ยว
หงิกงอยอดและใบมีสีเหลืองกว่าต้นที่ไม่เป็นโรคซึ่งทำให้เกษตรกรบางท่านเรียกว่าโรคใบเหลืองและจะสังเกตเห็น
ลักษณะจุดหรือเป็นทางยาวมีสีเขียวเข้มดูช้ำตามก้านใบ
ลำต้น การติดผลจะไม่ดี หรือไม่ติดผลเลย
อาการที่เกิดกับต้นโตผลมะละกออาจบิดเบี้ยวมีจุดลักษณะเป็นวงแหวนทั่วไปทั้งผลถ้าเป็นรุนแรงแผลเหล่านี้จะ
มีลักษณะคล้ายสะเก็ดหรือหูดนูนขึ้นมาผิวมะละกอจะขรุขระเนื้อบริเวณที่เป็นจุดวงแหวนมักจะเป็นไตแข็งมี
รสขมซึ่งตลาดไม่ต้องการต้นที่เป็นโรคระยะนี้โดยปกติแล้วจะไม่ให้ผลในดอกชุดต่อๆไปการแพร่ระบาดโดย
เพลี้ยอ่อนหลายชนิดโดยเฉพาะเพลี้ยอ่อนฝ้ายโดยเชื้อไวรัสติดไปกับส่วนปากของเพลี้ยอ่อนและใช้เวลา
ในการถ่ายทอดโรคนี้สั้นมากเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถเข้าทำลายพืชตระกูลแตงต่างๆกับตระกูลมะละกอ
โดยปกติโรคนี้มักแพร่ระบาดจากแปลงข้างเคียงเข้ามาโดยมีเพลี้ยอ่อนเป็นพาหะ
เนื่องจากยังไม่พบว่า
โรคนี้ถ่ายทอดเชื้อผ่านเมล็ด
แนวทางป้องกันควบคุมโรคใบด่างวงแหวนมะละกอ ได้มีความพยายาม
ที่จะหาวิธีการต่างๆมาใช้พบว่าการใช้สารเคมีกำจัดเพลี้ยอ่อนไม่ให้ผลในการควบคุมโรคเนื่องจากเพลี้ยอ่อน
ใช้เวลาที่สั้นมากในการถ่ายทอดโรคไม่มีสารเคมีชนิดใดมีประสิทธิภาพในการฆ่าเพลี้ยอ่อน
ในทันทีทันใด
การป้องกันกำจัดแบบถอนรากถอนโคน โดยขุดทำลายมะละกอที่เป็นโรค
ทำลายให้หมดไปจากพื้นที่นั้นแล้วปลูกมะละกอที่ปราศจากโรคใหม่
พบว่าไม่ให้ผลในการป้องกัน เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถจะอาศัยอยู่ในพืชตระกูลแตงได้
และในทางปฏิบัติไม่สามารถกำจัดพืชเหล่า
นี้และมะละกอที่เป็นโรคให้หมดสิ้น
ภาควิชาโรคพืช คณะเกษตร มหาวิทยาเกษตรศาสตร์
ได้จัดทำโครงการ "แก้ไขปัญหาโรค
ใบด่างวงแหวนมะละกอ
เพื่อเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ สำหรับอุตสาหกรรมผลไม้กระป๋องเพื่อการส่งออก"
ขึ้น
โดยได้ทำการศึกษาค้นคว้าและคิดค้นการทำวัคซีนให้กับมะละกอ
ซึ่งเป็นวิธีสร้างภูมิคุ้มกันโดยใช้เชื้อไวรัสสายพันธุ์
ที่ไม่เกิดโรค
หรือเรียกว่า mild strain ปลูกเชื้อให้กับต้นกล้ามะละกอ
ทำให้สามารถป้องกันโรคนี้ได้
โดยมะละกอจะให้ผลผลิตได้ในระดับที่น่าพอใจทั้งปริมาณและคุณภาพวิธีการทำวัคซีน
มีขั้นตอนดังนี้
คือ
ขั้นแรกเพาะเชื้อวัคซีนในแตงฝรั่งหรือในต้นกล้ามะละกอ จากนั้นนำใบพืชที่มีเชื้อวัคซีนมาบดละเอียด
ในสารละลายที่ปรับความเป็นกรดเป็นด่าง
กรองเอาน้ำคั้นพืชด้วยกระดาษกรองหรือผ้าขาวบาง แล้วนำกล้ามะละกอที่มีอายุครบ
1 เดือน มาทำวัคซีนโดยทาน้ำคั้นพืชที่มีหินกากเพชรผสมลงบนใบมะละกอ
สุดท้ายให้นำกล้าที่ทำการปลูกวัคซีนแล้วไปปลูกเลี้ยงในโรงเรือนต่อเป็นระยะเวลาประมาณ
3-4 สัปดาห์
และในขณะนี้ได้มีการนำเครื่องพ่นสีรถยนต์มาประยุกต์ใช้แทนการปลูกวัคซีนจากการทาน้ำคั้นพืช
ด้วยมือ
ซึ่งจะทำให้ประหยัดเวลาและแรงงานวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ นอกเหนือจากการฝึกอบรมเกษตรกร
ให้มีความรู้ในการควบคุมโรคนี้
และเป็นการสร้างงานให้กับบัณฑิตที่ว่างงาน ได้มีความรู้ความสามารถ
และประสบการณ์ในการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเกษตรกร
ท่านผู้ที่สนใจอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ"วัคซีนมะละกอ"
สามารถพบได้ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
|